
แต่ในวันที่เราหลวมตัวเข้าไปสู่โลกของมิจ มันเหมือนถูกดึงเข้าไปให้ “ติดกับดัก” เพราะสนใจทำงานและอยากมีรายได้ (ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้เสียค่าสมัครนะคะ คนเข้าใจผิดกันเยอะ) และพวกนี้มืออาชีพทำงานเป็นทีมเล่นกับความรู้สึกคน กดดันเรื่องเวลา หน้าม้าก็รุมพิมพ์ต่อว่าเพื่อบีบให้เราต้องทำเพื่อส่วนรวม
ยอมรับว่า ณ เวลานั้น “ขาดสติ” และมัวแต่ใจจดใจต่อในการอยากได้เงินตัวเองคืน ทำให้โอนต่อ โอนเพิ่ม โดยไม่ทันได้ฉุกคิดหรือไหวตัวช้าไปมาก จนยอดความเสียหายสูงไปถึงหลักล้าน
ไม่มีใครอยาก “ตกเป็นเหยื่อ” ไม่มีใครอยาก “เสียค่าโง่” แต่ในเมื่อสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องตั้งรับและยอมรับความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแก้ไขปัญหาต่อ
โชคดีที่คนในครอบครัวและคนรอบตัวไม่มีใครเหยียบย่ำซ้ำเติมหรือสมน้ำหน้า และบอกว่าต่อไปมีอะไรต้องรีบปรึกษาคนในครอบครัวหรือคนใกล้ตัว อย่ากลัวที่จะบอกหรือเล่า และอย่าแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองคนเดียว ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ #เบสท์ พลาดไปแล้วจริงๆ
ขอบคุณทุกคนที่ติดต่อเข้ามาทุกช่องทาง มาสอบถามถึงสภาพจิตใจ และให้กำลังใจ ทำให้รู้ว่ามีคนรอบตัวอีกหลายคนที่โดนแบบ #เบสท์ มีทั้งแบบเดียวกันเป๊ะๆและแบบที่คล้ายๆกัน แต่แค่พวกเค้าไม่กล้าที่จะออกมาเล่ามาแชร์ในสิ่งที่ตัวเองเจอเพราะกลัวโดนด่าว่า “โง่” นี่แหละค่ะ
เข้าใจว่าต่างคนต่างมุมมองต่างความคิด และทุกวันนี้มีข่าวออกอยู่เรื่อยๆจริง แต่มิจก็มีรูปแบบใหม่ๆที่แยบยลขึ้นทุกวัน จนบางทีเราก็ตามไม่ทันทุกข่าว เพราะตอนที่ไปแจ้งความที่สน. จนท.ตำรวจยังบอกเลยว่ามีเคสแบบนี้ทุกวัน วันนึงไม่ต่ำกว่า 5 รายที่มาแจ้ง ซึ่งฟังแล้วน่าตกใจ เห็นใจ และไม่คิดว่าวันนึงเราจะตกเป็น “เหยื่อมิจฉาชีพ” เหมือนกัน
ขอให้ทุกคนที่เคยโดน กล้าแชร์ กล้าบอกต่อเรื่องราวของตัวเอง ถึงแม้ว่าโดนด่า โดนตำหนิแน่ๆ 70-80% ว่าไม่มีสมอง สวยแต่โง่ การศึกษาสูงซะเปล่า แต่มันคือการช่วยเหลือคนอื่นๆอีกทางนึง อย่างน้อยวันนี้คนที่เห็นข่าว #เบสท์ ก็จะได้ระมัดระวังตัวเมื่อเห็นเพจเหล่านี้หรือลักษณะงานแบบนี้เด้งขึ้นมาใน feed ของตัวเอง (ซึ่งเพจได้ปลิวไปเรียบร้อย สลายตัวไวมาก)
หวังว่าทุกคนจะเข้าใจในสิ่งที่ #เบสท์ ต้องการจะสื่อและบอกต่อ ขอบคุณคนที่เข้าใจว่า “ไม่โดนกับตัวไม่มีวันรู้หรอก” เศรษฐกิจแบบนี้ สถานการณ์แบบนี้ ทำให้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะ “ตกเป็นเหยื่อ” ได้เหมือนกันหมด”



