
‘จูเน่ เพลินพิชญา’ เคลียร์ใจ! ยอมรับลาออกมหาวิทยาลัย เลือกโฟกัสงานและคอร์สออนไลน์
ทำเอาหลายคนให้ความสนใจทันที เมื่อนักแสดงสาวมากความสามารถ จูเน่ เพลินพิชญา โกมลารชุน ออกมาเปิดใจถึงประเด็นที่ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเรียนว่า “เรียนไม่จบปริญญาตรี” โดยเจ้าตัวได้ชี้แจงอย่างชัดเจนถึงเหตุผลในการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้
ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดที่งาน CP-Meiji World Milk Day จูเน่ได้เผยถึงเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เธอทราบดีว่ามีคอมเมนต์เกี่ยวกับการศึกษาของเธออยู่บ้าง ซึ่งเธอเองก็ยอมรับว่าได้ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว
จูเน่เล่าย้อนไปถึงช่วงที่ยังเป็นสมาชิกวง BNK48 และเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปพร้อมกัน “ทุกคนน่าจะพอทราบว่าช่วงที่อยู่ BNK จูเน่ก็เรียนที่จุฬาฯ ไปด้วยค่ะ แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถดูแลทั้งสองอย่างไปพร้อมกันได้ดี เลยตัดสินใจดร็อปเรียนไปก่อน เพื่อมาโฟกัสที่งาน” เธอกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่จูเน่จบการศึกษาจากวง BNK48 และมีโอกาสได้กลับไปเรียนต่อ เธอก็ได้ทบทวนตัวเองอีกครั้ง “พอได้มาทำงานแล้ว จูเน่ได้เห็นมุมมองชีวิตในแบบอื่นๆ รวมถึงโอกาสในการทำงาน มันทำให้จูเน่คุยกับตัวเองว่า การที่เราจะนั่งใช้เวลาอีก 4 ปีในมหาวิทยาลัย อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตที่เราต้องการจริงๆ” นักแสดงสาวอธิบาย
ด้วยเหตุผลนี้ จูเน่จึงตัดสินใจที่จะออกมาทำงานอย่างเต็มตัว และเลือกที่จะศึกษาต่อในรูปแบบที่ยืดหยุ่นกว่า “จูเน่เลือกที่จะทำงานมากกว่า และไปศึกษาในรูปแบบของการลงคอร์สเรียนออนไลน์ ซึ่งเดี๋ยวนี้มันทำได้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลก ไม่ต้องใช้เวลานาน เน้นเรียนในสิ่งที่อยากจะรู้จริงๆ และนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงๆ”
เมื่อถูกถามถึงความซีเรียสกับใบปริญญา จูเน่ตอบอย่างมั่นใจว่า “ไม่ซีเรียสเรื่องปริญญาเลยค่ะ และต้องขอบคุณที่บ้านมากๆ ที่ไม่ซีเรียสเรื่องนี้เลย แม่จูเน่เป็นคนที่รักเรียนมาก ท่านก็อยากให้เราเรียน แต่ท่านก็ไม่ได้ชอบบังคับ เขาจะถามว่าเราต้องการอะไรมากที่สุด”
เธอยังเล่าถึงการสนับสนุนจากครอบครัวว่า “ในวันที่จูเน่เดินกลับไปบอกแม่ว่าไปเทคคอร์สอินทีเรีย แม่ก็ดีใจมากๆ ค่ะ ดีใจที่เดี๋ยวนี้มีหลายคอร์สให้ได้ลองมากมาย โดยที่ไม่ต้องไปนั่งอยู่ 4 ปี มันไม่รู้สึกกดดันตัวเองด้วย”
สุดท้าย จูเน่กล่าวทิ้งท้ายถึงเสียงวิจารณ์ว่า เธอไม่ซีเรียสเลยที่คนพูดถึงการเรียนของเธอ และมองว่ายุคสมัยนี้เปิดกว้างมากขึ้น “เข้าใจว่ายังมีคอมเมนต์ที่หลากหลาย มองว่าเหมาะสม ไม่เหมาะสม ดีหรือไม่ดี ซึ่งจูเน่มองว่าแล้วแต่คนมอง แต่โดยส่วนตัวแทบไม่รู้มาก่อนว่ามีคนสงสัย เพราะไม่มีใครเดินเข้ามาถามเลยค่ะ ถ้าอยากรู้ก็บอกได้”
การตัดสินใจครั้งนี้ของจูเน่ สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน ที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากขึ้น สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรู้และประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ชีวิตในแบบของตัวเอง


