
หลายคนจะเห็นชีวิตของ โอ๋ ภัคจีรา ที่ตอนนี้สุขสบาย บ้านหลังใหญ่โต แต่หารู้ไม่ ชีวิตจริงของเธอกว่าจะมีวันนี้ ผ่านความลำบากชนิดที่เรียกได้ว่า ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ก็ว่าได้
โดยเธอเล่าผ่านรายการ ตีท้ายครัว ย้อนไปสมัยเด็ก บ้านล้มละลายจนเจอความลำบาก โดยบอกว่า “คนอาจจะไม่รู้ บ้านโอ๋ล้มละลายตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีที่ซุกหัวนอน พอบ้านล้มละลายแล้วเมื่อก่อนเราอยู่กันเหมือนกงสี ก็คือใหญ่ เอาง่ายๆคือตีแบดได้ในบ้าน มีโรงงาน มีข้าวกินครบ 3 มื้อ ต่อให้ไม่ได้เป็นคุณหนู แต่รู้สึกสบาย เหมือนเด็กอยู่ในกงสีตลอด แต่พอวันนึง เราล้มละลายต้องขายบ้าน ก็พเนจรแล้ว
ตอนนั้นมีโอ๋ มีอิน เป็นช่วงที่แม่เพิ่งคลอดอุ๋ย ในครอบครัวนี้ไม่มีใครมาอาชีพ ออกไปพเนจร วันแรกเห็นบ้านที่ไปอยู่ จากที่บอกว่าบ้านเราใหญ่โต เรามีข้าวกินครบ 3 มื้อ เราไม่รู้ความลำบากคืออะไร วันนั้นได้เจอเลย บ้านเป็นทาวเฮ้าส์ 2 ห้อง ข้างล่างไม่มีที่อยู่ เป็นเครื่องจักร ข้างบนเป็นห้อง 2 คนที่ไปอาศัยเขา เป็นที่เก็บของของเพื่อนพ่อที่โรงงาน พ่อแม่ก็ตีกันว่าพามาลำบาก เราได้ยินเสียงเขาคุยกัน พ่อออกจากบ้าน วันนึงฝนตก น้ำก็รั่ว เราไม่มีที่จะอยู่ แม่ลูกเล็ก พ่อก็ไม่อยู่ อุ้มน้องเล็กออกมาด้วยร่วมคนละคัน มายืนป้ายรถเมล์ เพราะไม่มีที่อยู่ แม่เรียกแท็กซี่เพื่อจะไปบ้านป้า เงินก็ไม่ค่อยจะมี
คิดว่าชีวิตมันขนาดนั้นเลยหรอ แม่พยายามไปอยู่บ้านป้า แต่มีโอกาสจะไปอยู่บ้านเพื่อนอีก เพราะสงสารป้า เขารับผิดชอบหลายอย่าง ตอนนั้นบ้านเพื่อนใกล้ฟิวเจอร์ เดินข้ามไปคิดว่าเราคงไปเป็นพนักงาน หางานทำ เห็นป้ายใหญ่ๆ ประกวด Miss Future Model contest เลยลองประกวด เพราะอยากได้เงิน เขาเขียนมูลค่ากว่า แสนหรือล้านไม่รู้ ได้โทรศัพท์อะไร เลยลองดู ได้ที่ 1 แต่จริงๆเขาบอกรวมมูลค่าในงานกว่าล้าน ตนได้โทรศัพท์มาเครื่องนึง เงินไม่กี่หมื่น
ตอนนั้นพี่อุ๊บ วิริยะ ชวนประกวด Miss Motor Show เลยได้อีก ที่ 1 มันก็เปิดให้เราได้งานนี้ ได้อีกงานนึง ให้เข้าวงการบันเทิงมาเรื่อยๆ ได้เล่นละคร ก็เลยกลายเป็นภาระตกมาอยู่ที่เรา
ตอนเรียนหนังสือ มีกระเตงน้องสาวไปโรงเรียนด้วย เอาไปเลี้ยง ชีวิตมันจะเล่ามันเหมือนละคร มันลำบากมาก แม่ต้องไปทำงานโรงพัดลม เอาอุ๋ยไป ประมาณ 2 ขวบ ถ้าโดนจับได้เดี๋ยวเขาจะไม่ได้ทำงานต่อ มันอันตราย ไม่มีใครดูอุ๋ย โอ๋กับอินเรียนที่เดียวกัน เลยเอาไปด้วย ผลัดกันคนละคาบกันอิน”







หลายคนจะเห็นชีวิตของ โอ๋ ภัคจีรา ที่ตอนนี้สุขสบาย บ้านหลังใหญ่โต แต่หารู้ไม่ ชีวิตจริงของเธอกว่าจะมีวันนี้ ผ่านความลำบากชนิดที่เรียกได้ว่า ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ก็ว่าได้
โดยเธอเล่าผ่านรายการ ตีท้ายครัว ย้อนไปสมัยเด็ก บ้านล้มละลายจนเจอความลำบาก โดยบอกว่า “คนอาจจะไม่รู้ บ้านโอ๋ล้มละลายตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีที่ซุกหัวนอน พอบ้านล้มละลายแล้วเมื่อก่อนเราอยู่กันเหมือนกงสี ก็คือใหญ่ เอาง่ายๆคือตีแบดได้ในบ้าน มีโรงงาน มีข้าวกินครบ 3 มื้อ ต่อให้ไม่ได้เป็นคุณหนู แต่รู้สึกสบาย เหมือนเด็กอยู่ในกงสีตลอด แต่พอวันนึง เราล้มละลายต้องขายบ้าน ก็พเนจรแล้ว
ตอนนั้นมีโอ๋ มีอิน เป็นช่วงที่แม่เพิ่งคลอดอุ๋ย ในครอบครัวนี้ไม่มีใครมาอาชีพ ออกไปพเนจร วันแรกเห็นบ้านที่ไปอยู่ จากที่บอกว่าบ้านเราใหญ่โต เรามีข้าวกินครบ 3 มื้อ เราไม่รู้ความลำบากคืออะไร วันนั้นได้เจอเลย บ้านเป็นทาวเฮ้าส์ 2 ห้อง ข้างล่างไม่มีที่อยู่ เป็นเครื่องจักร ข้างบนเป็นห้อง 2 คนที่ไปอาศัยเขา เป็นที่เก็บของของเพื่อนพ่อที่โรงงาน พ่อแม่ก็ตีกันว่าพามาลำบาก เราได้ยินเสียงเขาคุยกัน พ่อออกจากบ้าน วันนึงฝนตก น้ำก็รั่ว เราไม่มีที่จะอยู่ แม่ลูกเล็ก พ่อก็ไม่อยู่ อุ้มน้องเล็กออกมาด้วยร่วมคนละคัน มายืนป้ายรถเมล์ เพราะไม่มีที่อยู่ แม่เรียกแท็กซี่เพื่อจะไปบ้านป้า เงินก็ไม่ค่อยจะมี
คิดว่าชีวิตมันขนาดนั้นเลยหรอ แม่พยายามไปอยู่บ้านป้า แต่มีโอกาสจะไปอยู่บ้านเพื่อนอีก เพราะสงสารป้า เขารับผิดชอบหลายอย่าง ตอนนั้นบ้านเพื่อนใกล้ฟิวเจอร์ เดินข้ามไปคิดว่าเราคงไปเป็นพนักงาน หางานทำ เห็นป้ายใหญ่ๆ ประกวด Miss Future Model contest เลยลองประกวด เพราะอยากได้เงิน เขาเขียนมูลค่ากว่า แสนหรือล้านไม่รู้ ได้โทรศัพท์อะไร เลยลองดู ได้ที่ 1 แต่จริงๆเขาบอกรวมมูลค่าในงานกว่าล้าน ตนได้โทรศัพท์มาเครื่องนึง เงินไม่กี่หมื่น
ตอนนั้นพี่อุ๊บ วิริยะ ชวนประกวด Miss Motor Show เลยได้อีก ที่ 1 มันก็เปิดให้เราได้งานนี้ ได้อีกงานนึง ให้เข้าวงการบันเทิงมาเรื่อยๆ ได้เล่นละคร ก็เลยกลายเป็นภาระตกมาอยู่ที่เรา
ตอนเรียนหนังสือ มีกระเตงน้องสาวไปโรงเรียนด้วย เอาไปเลี้ยง ชีวิตมันจะเล่ามันเหมือนละคร มันลำบากมาก แม่ต้องไปทำงานโรงพัดลม เอาอุ๋ยไป ประมาณ 2 ขวบ ถ้าโดนจับได้เดี๋ยวเขาจะไม่ได้ทำงานต่อ มันอันตราย ไม่มีใครดูอุ๋ย โอ๋กับอินเรียนที่เดียวกัน เลยเอาไปด้วย ผลัดกันคนละคาบกันอิน”






VV
V

หลายคนจะเห็นชีวิตของ โอ๋ ภัคจีรา ที่ตอนนี้สุขสบาย บ้านหลังใหญ่โต แต่หารู้ไม่ ชีวิตจริงของเธอกว่าจะมีวันนี้ ผ่านความลำบากชนิดที่เรียกได้ว่า ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ก็ว่าได้
โดยเธอเล่าผ่านรายการ ตีท้ายครัว ย้อนไปสมัยเด็ก บ้านล้มละลายจนเจอความลำบาก โดยบอกว่า “คนอาจจะไม่รู้ บ้านโอ๋ล้มละลายตั้งแต่เด็กๆ ไม่มีที่ซุกหัวนอน พอบ้านล้มละลายแล้วเมื่อก่อนเราอยู่กันเหมือนกงสี ก็คือใหญ่ เอาง่ายๆคือตีแบดได้ในบ้าน มีโรงงาน มีข้าวกินครบ 3 มื้อ ต่อให้ไม่ได้เป็นคุณหนู แต่รู้สึกสบาย เหมือนเด็กอยู่ในกงสีตลอด แต่พอวันนึง เราล้มละลายต้องขายบ้าน ก็พเนจรแล้ว
ตอนนั้นมีโอ๋ มีอิน เป็นช่วงที่แม่เพิ่งคลอดอุ๋ย ในครอบครัวนี้ไม่มีใครมาอาชีพ ออกไปพเนจร วันแรกเห็นบ้านที่ไปอยู่ จากที่บอกว่าบ้านเราใหญ่โต เรามีข้าวกินครบ 3 มื้อ เราไม่รู้ความลำบากคืออะไร วันนั้นได้เจอเลย บ้านเป็นทาวเฮ้าส์ 2 ห้อง ข้างล่างไม่มีที่อยู่ เป็นเครื่องจักร ข้างบนเป็นห้อง 2 คนที่ไปอาศัยเขา เป็นที่เก็บของของเพื่อนพ่อที่โรงงาน พ่อแม่ก็ตีกันว่าพามาลำบาก เราได้ยินเสียงเขาคุยกัน พ่อออกจากบ้าน วันนึงฝนตก น้ำก็รั่ว เราไม่มีที่จะอยู่ แม่ลูกเล็ก พ่อก็ไม่อยู่ อุ้มน้องเล็กออกมาด้วยร่วมคนละคัน มายืนป้ายรถเมล์ เพราะไม่มีที่อยู่ แม่เรียกแท็กซี่เพื่อจะไปบ้านป้า เงินก็ไม่ค่อยจะมี
คิดว่าชีวิตมันขนาดนั้นเลยหรอ แม่พยายามไปอยู่บ้านป้า แต่มีโอกาสจะไปอยู่บ้านเพื่อนอีก เพราะสงสารป้า เขารับผิดชอบหลายอย่าง ตอนนั้นบ้านเพื่อนใกล้ฟิวเจอร์ เดินข้ามไปคิดว่าเราคงไปเป็นพนักงาน หางานทำ เห็นป้ายใหญ่ๆ ประกวด Miss Future Model contest เลยลองประกวด เพราะอยากได้เงิน เขาเขียนมูลค่ากว่า แสนหรือล้านไม่รู้ ได้โทรศัพท์อะไร เลยลองดู ได้ที่ 1 แต่จริงๆเขาบอกรวมมูลค่าในงานกว่าล้าน ตนได้โทรศัพท์มาเครื่องนึง เงินไม่กี่หมื่น
ตอนนั้นพี่อุ๊บ วิริยะ ชวนประกวด Miss Motor Show เลยได้อีก ที่ 1 มันก็เปิดให้เราได้งานนี้ ได้อีกงานนึง ให้เข้าวงการบันเทิงมาเรื่อยๆ ได้เล่นละคร ก็เลยกลายเป็นภาระตกมาอยู่ที่เรา
ตอนเรียนหนังสือ มีกระเตงน้องสาวไปโรงเรียนด้วย เอาไปเลี้ยง ชีวิตมันจะเล่ามันเหมือนละคร มันลำบากมาก แม่ต้องไปทำงานโรงพัดลม เอาอุ๋ยไป ประมาณ 2 ขวบ ถ้าโดนจับได้เดี๋ยวเขาจะไม่ได้ทำงานต่อ มันอันตราย ไม่มีใครดูอุ๋ย โอ๋กับอินเรียนที่เดียวกัน เลยเอาไปด้วย ผลัดกันคนละคาบกันอิน”






VV
V