
เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ “ออม-กรณ์นภัส” พร้อมด้วย “หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง” คู่จิ้นคนดัง ได้มอบอำนาจให้ผู้จัดการส่วนตัว และทนายความ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล รอง ผกก.ดส.บช.น. ณ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มแฟนคลับที่คุกคามความเป็นส่วนตัวของพวกเธอ
จากการสอบถาม “แม่ก้อย-นฤมล” มารดาของนักแสดงสาวออม-กรณ์นภัส ได้เปิดเผยถึงเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “เรื่องซาแซงตามน้องเกิดขึ้นมาพักใหญ่แล้ว โดยการที่เขา (แฟนคลับ) จ้างคนขับรถของน้องออม ให้คอยรายงานความเคลื่อนไหวทั้งหมด ไม่ว่าน้องจะไปไหน ทำอะไรบ้าง ซึ่งคนขับรถคนนั้นได้รับผลตอบแทนจำนวนมาก ทั้งเงินสด นาฬิกา กระเป๋า และโทรศัพท์มือถือ”
แม่ก้อยยังคาดการณ์อีกว่า เหตุการณ์ที่แฟนคลับบุกไปถึงบ้านในครั้งก่อน ก็น่าจะมีคนขับรถเป็นคนให้ข้อมูล ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
จุดพลิกผันที่ทำให้ออมจับได้ คือเมื่อคนขับรถคนดังกล่าวได้รับโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่จากแฟนคลับ แต่ไม่สามารถเปิด Google Maps ได้ ออมจึงเข้าไปช่วยเปิดให้ และบังเอิญเห็นข้อความสนทนาในแอปพลิเคชัน Line ระหว่างคนขับรถกับกลุ่มแฟนคลับ ซึ่งทำให้เธอเห็นหลักฐานทั้งหมดคาตา และตัดสินใจแจ้งความในทันที
หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ คนขับรถก็ได้สารภาพว่าได้รับโทรศัพท์จากแฟนคลับ และอ้างว่าทำไปเพราะแฟนคลับเป็นห่วงออม ซึ่งแม่ก้อยยืนยันว่าเหตุผลดังกล่าวไม่สมเหตุสมผลและเกินขอบเขตไปมาก ทางต้นสังกัดอย่างช่อง 3 จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
เมื่อสอบถามถึงสภาพจิตใจของลูกสาว แม่ก้อยเผยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า “ตอนนี้ลูกสาวเครียดมาก จากคนที่เคยสดใสร่าเริง กลายเป็นคนค่อนข้างกังวล ไม่สบายบ่อย เดี๋ยวปวดหัว ปวดหู เขาเจอความกดดันอย่างหนัก”
“คนที่ตามไปงานยังไม่เท่าไหร่ แต่ที่เจอซาแซง เข้าไปก่อกวนต่อว่าในอินสตาแกรม หรือตัดต่อภาพที่สร้างความเสียหายให้น้อง มันทำให้น้องเครียดมาก ทำไมเขาใจร้ายกันจัง” แม่ก้อยกล่าวทิ้งท้าย
พร้อมระบุว่าทางช่อง 3 ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดการกับผู้ที่กระทำการดังกล่าวอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อภาพที่ทำให้เสียหาย หรือการเผยแพร่ข่าวปลอมก็ตาม เพื่อปกป้องศิลปินในสังกัดให้พ้นจากการคุกคามในรูปแบบนี้





